343 จำนวนผู้เข้าชม |
ภาวะไขมันเกาะตับ (Fatty Liver Disease) เป็นโรคที่เกิดจากการสะสมไขมันในเนื้อตับ โดยภาวะไขมันเกาะตับอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น พฤติกรรมการกินอาหารไม่เหมาะสม, การออกกำลังกายไม่เพียงพอ, โรคที่เกี่ยวข้องกับสมบัติทางพันธุกรรม, หรือการใช้ยาหรือสารเสพติดบางชนิด ซึ่งการวินิจฉัยของภาวะไขมันเกาะตับมักจะใช้การตรวจคลินิกคัดกรองด้วยการตรวจภาพรังสี เช่น อัลตราซาวน์และซีทีสแกน และบางครั้งอาจต้องทำการตรวจเลือกเพิ่มเติม เช่น ตรวจการทำงานของตับ หรือการตรวจทางพันธุกรรม แล้วภาวะไขมันเกาะตับ ดูแลอย่างไรได้บ้าง NBL จะมาสรุปเกี่ยวกับ ภาวะไขมันเกาะตับ ดังนี้
ภาวะไขมันเกาะตับ (Fatty Liver Disease) เป็นโรคที่เกิดขึ้นเมื่อมีการสะสมไขมันในเนื้อตับมากเกินไป โดยที่ไขมันนี้ส่วนใหญ่เป็น triglycerides และสะสมในเซลล์ตับ โดยภาวะนี้มีสองหมวดหลัก คือ Non-alcoholic Fatty Liver Disease (NAFLD) และ Alcoholic Fatty Liver Disease (AFLD) ซึ่งมีสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่แตกต่างกันไปดังนี้
เป็นภาวะที่เกิดจากการสะสมไขมันในตับโดยไม่เกี่ยวข้องกับการบริโภคแอลกอฮอล์มากนัก สาเหตุสำคัญส่วนใหญ่คือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการกินและการออกกำลังกาย เช่น การบริโภคอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง และความเครียด นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, และโรคที่เกี่ยวข้องกับการต้านออกซิเดชัน
เกิดจากการบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไป ทำให้ไขมันสะสมในเนื้อตับ เป็นอันตรายสำหรับผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่องหรือมีประวัติการดื่มมาก่อนที่จะเป็นโรคไขมันเกาะตับ
ภาวะไขมันเกาะตับอาจเป็นอันตรายได้หลายด้านเนื่องจากสามารถเกิดผลกระทบต่อสุขภาพทั่วไปและสามารถเป็นต้นเหตุของภาวะโรคร้ายแรงได้ดังนี้
ภาวะไขมันเกาะตับเป็นต้นเหตุที่สำคัญของโรคตับอักเสบ ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นโรคตับอักเสบไม่เฉียบพลัน (Non-alcoholic Steatohepatitis - NASH) และเมื่อเกิด NASH อาจทำให้เกิดอาการอักเสบของตับและภาวะตับแข็ง (cirrhosis) ซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงและเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับ
ภาวะไขมันเกาะตับเชื่อมโยงกับเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดซึ่งเกิดจากการสะสมไขมันในร่างกาย
ภาวะไขมันเกาะตับมักเป็นสัญญาณเตือนของการเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและอื่น ๆ
ภาวะไขมันเกาะตับอาจเป็นตัวเสี่ยงให้เกิดมะเร็งตับ เนื่องจากภาวะที่ตับอักเสบและเปลี่ยนเป็นเนื้อตับแข็ง (cirrhosis) มีความเสี่ยงสูงต่อการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของเซลล์ในตับที่ทำให้เกิดมะเร็ง
ความเครียดและภาวะซึมเศร้าเป็นปัจจัยที่มักเป็นผลที่ตามมาจากภาวะไขมันเกาะตับ ทำให้มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตที่ต่ำลง
การลดน้ำหนักหรือรักษาน้ำหนักในระดับที่เหมาะสมจะช่วยลดการสะสมไขมันในตับ โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและการรับประทานอาหารที่เหมาะสมจะช่วยให้การควบคุมน้ำหนักเป็นไปได้
ลดปริมาณอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารที่มีไขมันอิ่มน้ำ อาหารที่มีน้ำตาลสูง และอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง และเพิ่มการบริโภคผักและผลไม้ที่มีใยอาหารสูง
การลดการบริโภคอาหารที่มีโปรตีนสัตว์และคาร์โบไฮเดรต และเพิ่มการบริโภคอาหารที่มีโปรตีนพืช เช่น เนื้อถั่ว, ถั่วเหลือง, และเมล็ดพืช
หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์