บริษัท โคนี่โบรท์อินเตอร์เทรด จำกัด
โดยปกติจะตอบกลับภายในไม่กี่ชั่วโมง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ
เริ่มแชท

วิธีกิน DHA ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาการของลูกน้อย

642 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วิธีกิน DHA ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาการของลูกน้อย

DHA หรือกรดไขมัน omega-3 เป็นส่วนสำคัญของโภชนาการทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดย DHA ถือว่าเป็นสารอาหารจำเป็นพอๆ กับอาหารหลัก เนื่องจากคุณค่าในสารอาหารของ DHA สามารถช่วยเสริมสร้างในพัฒนาการของร่างกายและสมองได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ DHA กลายเป็นอาหารเสริมที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพให้กับลูกน้อย พร้อมเปิดประตูสู่ศักยภาพของลูกน้อยด้วย วิธีกิน DHA ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการบำรุงที่คุ้มค่า เห็นในผลลัพธ์ที่พึงพอใจ โดย NBL จะมาอธิบาย วิธีกิน DHA ที่มีประสิทธิภาพ ด้วยกันดังนี้

DHA
ดีเอชเอ (DHA) คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร?


DHA (Docosahexaenoic acid; DHA) คือ กรดไขมันจำเป็นในกลุ่ม Omega-3 ที่สมองและสายตาต้องการ ซึ่ง DHA สามารถเข้าไปบำรุงและเสริมพัฒนาการส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี


ปัญหาของทารกและเด็กที่ได้รับดีเอชเอ (DHA) ไม่เพียงพอ


-ระดับ ไอคิว ลดต่ำลง

- มีปัญหาการเรียนรู้ช้า ทั้งการเขียนและการอ่าน

-เด็กมีปัญหาเป็นโรคสมาธิสั้น และขาดการยับยั้งชั่งใจ

-การมองเห็นของทารกลดลง และอาจก่อให้เกิดโรคตาบอดกลางคืนได้


ดีเอชเอ (DHA) เสริมพัฒนาการสมองและสายตาของเด็กอย่างมีประสิทธิภาพ


ในช่วงตั้งครรภ์, ทารกได้รับดีเอชเอ (DHA) ผ่านทางรกซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญในการพัฒนาสมอง, ระบบประสาท, และสายตา. การรับประทาน DHA ในช่วงนี้มีผลในการเพิ่มน้ำหนักตัวของทารกและลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด.


เมื่อเด็กเข้าสู่ระยะที่สมองเจริญเติบโตสูงสุด, ที่เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือนก่อนและหลังการคลอด, ความต้องการของเด็กต่อ DHA เพิ่มขึ้นอย่างมาก. DHA มีบทบาทสำคัญในการเสริมพัฒนาสมอง, ระบบประสาท, และสายตาในช่วงเวลานี้.


การให้ DHA ในปริมาณเพียงพอในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสทองของคุณพ่อคุณแม่. หญิงตั้งครรภ์ระหว่าง 25-35 สัปดาห์ และสตรีที่ให้นมบุตรควรรับ DHA ในปริมาณ 300 มิลลิกรัมต่อวัน.


ผลทดสอบทางการแพทย์ในผู้หญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่ 5 เดือนขึ้นไปจนถึงช่วงให้นมบุตรที่ได้รับ DHA ในปริมาณที่เพียงพอ, พบว่าเด็กในกลุ่มนี้มีพัฒนาการทางสมองดีกว่าเด็กที่ไม่ได้รับ DHA ในช่วงตั้งครรภ์และในระหว่างการให้นมบุตร. การรับ DHA ในช่วงนี้สามารถมีผลดีต่อสมองและสายตาของลูกน้อยในอนาคต

DHA
ดีเอชเอ (DHA) ช่วยป้องกันโรคสมาธิสั้นของเด็กวัยเรียนได้


เด็กในช่วงวัยเรียนต้องใช้สมองและสายตาอย่างมากในกิจกรรมการเรียนรู้, ฝึกทักษะความคิดต่างๆ, และการพัฒนาทักษะทางการเรียนรู้. เพื่อให้สมองและระบบประสาททำงานอย่างมีประสิทธิภาพ, เด็กควรได้รับดีเอชเอ (DHA) ในปริมาณที่เหมาะสม.


การรับประทาน DHA มีบทบาทในการบรรเทาความเครียดจากการเรียนและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความจำ. นักเรียนในประเทศญี่ปุ่นที่มีการแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยสูงมักนิยมรับประทาน DHA ก่อนสอบเพื่อเพิ่มความจำและเสริมสมาธิ. ระดับ DHA ที่สมดุลในสมองยังช่วยป้องกันเด็กไม่ให้เป็นโรคสมาธิสั้น.


เด็กที่มีระดับ DHA ในเลือดต่ำอาจเผชิญกับปัญหาการควบคุมสมาธิและการเคลื่อนไหว, ทำให้มีโอกาสต่ำในการเรียนรู้, มีปัญหาด้านความสัมพันธ์, และเพิ่มโอกาสในการเกิดสภาพจิตอื่นๆ. เด็กวัย 1-12 ปีควรได้รับปริมาณ DHA อย่างเพียงพอประมาณ 20 มิลลิกรัมต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

DHA
วิธีกิน DHA ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาการของลูกน้อย


-เด็กที่มีน้ำหนักตัว 3-5 กก. แนะนำวิธีกิน DHA ให้รับประทานวันละ 1-2 แคปซูล

-สตรีมีครรภ์ (มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 25-35 สัปดาห์) แนะนำวิธีกิน DHA ให้รับประทานวันละ 1-2 แคปซูล

-สตรีให้นมบุตร แนะนำวิธีกิน DHAให้รับประทาน 1-2 แคปซูล / วัน

-คนวัยทำงาน แนะนำวิธีกิน DHAให้รับประทาน 1-2 แคปซูล / วัน

-ผู้สูงอายุ แนะนำวิธีกิน DHAให้รับประทาน 4-6 แคปซูล / วัน


 ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า DHA เป็นสารอาหารที่ไม่สำคัญ เพราะในทุกๆ วัน เด็กควรได้รับ DHA เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีของลูกคุณ จะดีกว่าไหมถ้าลูกคุณสามารถรับ DHA ได้ทุกๆ วัน โดยคุณสามารถเลือกซื้ออาหารเสริมคุณภาพ NBL ศูนย์รวมอาหารเสริมคุณภาพจากประเทศออสเตรเลีย เราเป็นแบรนด์ที่เป็น Original การผลิตจากประเทศออสเตรเลีย ภายในเครื่องหมายการค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย และประเทศออสเตรเลีย ประสบการณ์ด้าน 12 ปีด้านอาหารเสริมสุขภาพ เพื่อให้คุณเข้าถึงอาหารเสริมคุณภาพได้ยิ่งขึ้น เพียงคลิ๊ก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้