บริษัท โคนี่โบรท์อินเตอร์เทรด จำกัด
โดยปกติจะตอบกลับภายในไม่กี่ชั่วโมง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ
เริ่มแชท

ความจริงเกี่ยวกับ DHA ที่คุณแม่ต้องรู้

1444 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ความจริงเกี่ยวกับ DHA ที่คุณแม่ต้องรู้

DHA ถือได้ว่าเป็นสามารถที่สำคัญสำหรับคุณแม่และลูกน้อย เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญที่เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์หรือเด็กที่ต้องการสารอาหารเพื่อพัฒนาการทางสมอง เป็นสารอาหารสำคัญที่เด็กต้องการทุกวัน ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ DHA จึงเป็นสิ่งที่คุณแม่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทราบ เพื่อความเข้าใจตรงกันเกี่ยวกับ ความจริงเกี่ยวกับ DHA ที่คุณแม่ต้องรู้ วันนี้ NBL จะมาช่วยเพิ่มความเข้าใจให้กับคุณแม่ยุคใหม่เกี่ยวกับความจริงของ DHA

DHA มาจากปลาและสาหร่ายทะเล


หรือกรดไขมันดี ที่ส่งผลต่อการส่งเสริมในเรื่องการเรียนรู้ของมนุษย์ เป็นกรดไขมันที่อยู่ในกลุ่ม Omega-3 โดยอาหารที่มี DHA นั้นก็คือ ปลาทะเลน้ำลึก และสาหร่ายทะเล โดยจริงๆแล้ว DHA มีแหล่งที่มาแบ่งได้ดังนี้คือ



o   Algae Oil



หรือน้ำมันที่สกัดจากสาหร่ายทะเลขนาดเล็ก โดยจะเป็น Plant based ที่มีค่า DHA ที่สูง เป็นแหล่งกำเนิดของ DHA เนื้อน้ำมันมีลักษณะสีส้มสดถึงสีแดงโดยมีกลิ่นเฉพาะตัว

o   Fish



หรือน้ำมันปลาที่อยู่ตระกูล Omega3 ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สมอง และจอประสาทตา ที่ร่างกายควรได้รับในทุกๆวัน โดย DHA ของ NBL ผ่านการตรวจวิเคราะห์โลหะหนักลดโอกาสสารตกค้าง  จึงทำให้ปลอดภัยไม่น้อยไปกว่า สาหร่ายทะเล



DHA ทำให้เด็กเรียนรู้ได้ดี


สมอง ระบบประสาท และสายตาจะมีการพัฒนาได้เต็มที่ หากได้รับ DHA 300 มิลลิกรัมต่อวัน นอกจาก DHA จะช่วยประสิทธิภาพในการรับรู้แล้ว ยังสามารถลดความเสี่ยงของโรคสมาธิสั้นได้อีกด้วย เนื่องจากเด็กที่มีสมาธิสั้น จะมีระดับของ DHA ที่ต่ำ ยิ่งไปกว่านั้นด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนของวัยเรียน อาจจะเป็นเหตุที่ทำให้เด็กเกิดความเครียด การได้รับ DHA ในทุกๆ วัน อาจลดโอกาสที่จะเกิดความเครียดของเด็กก็เป็นได้



ร่างกายสร้าง DHA เองไม่ได้


โดยปกติแล้วเด็กจะสามารถเข้าถึง DHA ได้ในแต่ละวัน โดยจะมาจากการ รับประทานอาหารซึ่งจะเป็นแหล่งจากปลาทะเลน้ำลึก จึงกล่าวได้ว่า DHA ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเอง แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นและร่างกายเด็กต้องการ ทำให้อาหารประเภท DHA เป็นตัวช่วยที่ดี ที่จะทำให้เด็กสามารถเข้าถึง DHA ได้ในทุกๆ วัน ในปริมาณที่พอเหมาะ พร้อมเร่งประสิทธิภาพในการเรียนรู้ได้มากที่สุด



สิ่งมีชีวิตมีความต้องการ DHA ตั้งแต่อยู่ในครรภ์


เมื่ออยู่ในครรภ์ สมองซีกซ้ายของทารกจะเริ่มมีพัฒนาการเจริญเติบโตในเดือนที่ 2 ดังนั้นเมื่อเด็กอยู่ในครรภ์ ควรได้รับ DHA ในปริมาณ 200 มิลลิกรัม ต่อวัน ซึ่งถ้าเด็กได้รับปริมาณ DHA ไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้เด็กมีความบกพร่องในการมองเห็น มีระดับไอคิวที่ต่ำ เป็นโรคสมาธิสั้น เรียนรู้ช้า ขาดการยับยั้งชั่งใจ จึงไม่ใช่เรื่องดีที่เด็กจะขาด DHA



ปริมาณของ DHA ส่งผลต่อพัฒนาการที่เหนือกว่า


จากงานวิจัยมีการค้นพบว่า ถ้าเด็กที่ได้รับ DHA 17 ม.ก. และ ARA 34 ม.ก./100 กิโลแคลอรี จะสามารถแสดงศักยภาพในการพัฒนาส่วนของการเรียนรู้ได้ดีกว่า สามารถแก้ปัญหาและทักษะในเรื่องภาษาที่ดีกว่าคนอื่น จึงบอกได้เลยว่า ปริมาณของ DHA ส่งผลต่อพัฒนาการที่เหนือกว่า ของเด็กในยุคนี้

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า DHA เป็นสารอาหารที่ไม่สำคัญ เพราะในทุกๆ วัน เด็กควรได้รับ DHA เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีของลูกคุณ จะดีกว่าไหมถ้าลูกคุณสามารถรับ DHA ได้ทุกๆ วัน โดยคุณสามารถเลือกซื้ออาหารเสริมคุณภาพ NBL ศูนย์รวมอาหารเสริมคุณภาพจากประเทศออสเตรเลีย เราเป็นแบรนด์ที่เป็น Original การผลิตจากประเทศออสเตรเลีย ภายในเครื่องหมายการค้าอย่างถูกต้องตามกฏหมายในประเทศไทย และประเทศออสเตรเลีย ประสบการณ์ด้าน 12 ปีด้านอาหารเสริมสุขภาพ เพื่อให้คุณเข้าถึงอาหารเสริมคุณภาพได้ยิ่งขึ้น เพียงคลิ๊ก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้